หลายๆคนที่หัวล้าน ผมบาง หรือต้องการเปลี่ยนทรงผมอย่างฉับพลันนั้น สิ่งแรกที่เรามักจะคิดถึง “วิกผม” ที่อาจจะทำจากวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผมจริง/เส้นใยไนลอนที่ฉีดออกมาเป็นเส้นคล้ายเส้นผมน่ะครับ
ซึ่ง “วิกผม” (Wig) นั้นก็ใช้เพื่อปกปิด หรือดัดแปลงทรงผมเวลาที่เราต้องการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของตัวเองน่ะครับ หลายๆคนคงไม่แปลกใจเท่าไรนักกับวิกผม เพราะมีขายกันดาษดื่นทั่วไปตามราคาและคุณภาพที่ต้องการ
แต่ในวันนี้ เรื่องที่แอดจะมาเล่านั้นไม่ใช่เรื่อง “วิกผม” นะครับ แต่ดันกลายเป็นแฟชั่นที่นิยมในอดีตอย่าง “วิกหมออ้อย” แทนน่ะครับ!! อ้าว มันมีด้วยเรอะเนี่ย???
วิกหมออ้อย (Merkins / Pubic wig) นั้นพบว่ามีหลักฐานในการใช้ครั้งแรกในปี คศ. 1450s ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับวิกผมน่ะครับ แต่แทนที่จะใช้กับศีรษะนั้นกลับนำมาใช้งานกับอวัยวะส่วนที่มี “หมออ้อย” (Pubic hairs) แทนซะนี่!! เพื่อวัตถุประสงค์หลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปกปิด ตกแต่ง ให้ดูแปลกตาขึ้น ว้าววววว!!!
ซึ่งในอดีตโดยเฉพาะหญิงชาวดงการิ (Prostitutes) นั้นนิยมใช้กันมาก เพราะว่าปกติชาวดงการินั้นมักจะต้องพบปะแขกเหรื่อคนสำคัญเป็นประจำทุกค่ำคืน จนกระทั่งทำให้มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “เหาล่าง” (หรือจะเรียกว่า “โลน” : pubic lice ก็ได้) จนเกิดอาการคันคะเยอกันอย่างสุดซึ้งเลยทีเดียว
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันเหาล่าง (เหาคันแบบไม่ต้องมีดีเลย ) เจ้าหล่อนเลยต้องจัดการบวชชีให้น้องจิมมี่ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าเหาล่างนี้มีที่พำนักพักพิงอย่างเป็นสุข และสามารถกำจัดได้ง่าย จนจิมมี่นี่แทบจะหัวล้านไปเลยทีเดียว
ซึ่งอย่างว่าล่ะครับ!! ความล้านเลี่ยนเตียนโล่งของน้องจิมมี่ เวลาพบปะกับแขกเหรื่อที่มาด้วยแรงกระแทกซ้ำๆกระหน่ำตลอด ก็อาจจะทำให้น้องจิมมี่นั้นเกิดความเจ็บปวดขึ้นมาได้
ดังนั้นการใส่ “วิกหมออ้อย” ก็สามารถลดการประทะจากแขกเหรื่อได้ดี อีกทั้งยังสามารถทำให้น้องจิมมี่นั้นมีบุคลิกภาพที่ดูดีขึ้น โดยเวลาแปะลงไปอาจจะใช้กาวจากหนังสัตว์ทาก่อนแล้วจึงค่อยๆแปะวิกลงไป เนื่องจากว่าไม่สามารถทอเป็นตาข่ายแบบวิกผมได้น่ะครับ
ในบางกรณีหากหญิงสาวชาวดงการินั้นมีการติดโรคจากแขกเหรื่อ เช่น ซิฟิลิสที่ทำให้น้องจิมมี่นั้นมีความทุพพลภาพ การใช้วิกหมออ้อยนั้นก็สามารถใช้ปกปิดความไม่ปกตินั้นได้เป็นอย่างดีด้วย
แต่พอในยุคหลังๆ (ในช่วง คศ. 1800-1900) ก็ไม่ได้มีแต่หญิงสาวที่ใช้นะครับ ชายหนุ่มก็เห็นว่าวิกหมออ้อยนั้นก็เป็นแฟชั่นที่ดูน่าทำตาม จึงได้มีการออกแบบมาให้เสริมความเข้มแข็งของน้องชาย โดยแทนที่จะใช้ขนสัตว์ เฟอร์ ผ้านุ่มๆ ให้เหมือนวิกหมออ้อยหญิง ดันมาใช้ลวดโลหะฝอยๆแทน (เอริ่ม!! ทำไมจู่ๆแอดก็นึกถึงแปรงทองเหลืองขึ้นมาเฉยเลย )
ซึ่งในปัจจุบันความนิยมใช้นั้นก็หายไปตามกาลเวลาและวัฎจักรแฟชั่นน่ะครับ แต่ก็ยังมีใช้ในกรณีที่ต้องการทำภาพยนตร์สารคดีสร้างมนุษย์ทั้งหลาย ที่ใช้ตกแต่งให้ดูมีความแฟชั่นอีโรติกแบบเบาๆ กันด้วย
สุดท้ายนี้แอดก็ขอขอบคุณรูปเจ้าวิกหมออ้อยแบบแฟชั่นจากเจ๊กาก้า (Lady Gaga) จากลิงก์นี้ด้วยนะครับ
http://www.voilafashion.com/uncategorized/lady-gaga-rocks-some-merkins-in-photoshoot
#ปลูกป่าให้กับพื้นที่นาผืนน้อย
#คืนความรกรุงรังให้กับทุ่งโล่งเตียน
เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว 