แอดคาดว่าหลายๆคนมักจะยึดคติว่า “เสื้อใหม่ใส่ได้แค่ครั้งเดียว” เพราะถ้าซักไปก็จะเป็นเสื้อเก่าไปแล้ว เอริ่ม!!!!
ดังนั้นวันนี้แอดก็จะมาบอกเล่าถึง #เกร็ดความรู้ที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ ถึง #เหตุผลที่ควรซักเสื้อใหม่ก่อนใส่ กันดีกว่านะครับ 😂
😂
1.) ผ้าผืนที่นำมาตัดเย็บนั้นมักจะผ่านกระบวนการฟอกย้อมพิมพ์และตกแต่งด้วยสารเคมีหลากหลายชนิด ก่อนที่จะนำมาตัดเย็บกันนะครับ โดยมากแล้วก็จะเป็นสารเคมีที่ค่อนข้างระคายเคืองผิวพอสมควร
2.) สีย้อมผ้าส่วนเกินนั้นทางโรงงานนั้น ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ซักออก 100% นะครับ แค่เอาออกได้ 90-95% นี่ก็เรียกว่าเจ๋งแล้ว เนื่องจากว่าการซักออกแต่ละครั้งจะเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำทิ้ง และก่อให้เกิดต้นทุนที่ใช้บำบัดน้ำทิ้งมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณด้วยนะครับ
ในหลายๆกรณีอาจจะมีสีส่วนเกินหลงเหลือจนสามารถที่จะทำให้เรากลายร่างเป็นมนุษย์เหงื่อมีสี หรือถ้าเป็นเสื้อแดงก็อาจจะทำให้เรามีเหงื่อแดงดุจดังฮิปโปได้ด้วยซ้ำไป 😭
3.) สารตกแต่งสิ่งทอหลายชนิด เช่น สารพวก Resin finishing นั้นจะมีองค์ประกอบของ formaldehyde ปนอยู่บ้าง แม้แต่ในมาตรฐาน Standard 100 by Oekotex นั้นก็ยังต้องแอบยินยอมว่ามีได้ แต่ห้ามเกิน 75 ppm สำหรับเสื้อผ้าผู้ใหญ่ นั่นก็หมายความว่าขนาดผ่านมาตรฐานแล้วก็ยังคงอนุญาตให้หลงเหลือได้นะครับ (ส่วนเสื้อผ้าเด็กนั้นห้ามมีหลงเหลือต้องกำจัดจนได้ 0 ppm ให้จงได้อยู่แล้วครับ)
4.) สารเพิ่มความนุ่มของวัสดุสิ่งทอจากโรงงานนั้น โดยเฉพาะสารในกลุ่มของน้ำมันซิลิโคนหรือสารไขอื่นๆที่เคลือบผิวนั้นจะมีสารก่ออิมัลชั่นอย่างสารลดแรงตึงผิว (nonionic surfactants) ในกลุ่มของ polyoxyethylene ที่อาจจะจะมี 1,4-dioxane ปนมาอยู่บ้าง ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้นะครับ รวมไปถึงตัวช่วยกระจายตัว (dispersing agents) ที่ช่วยทำให้สารตกแต่งเคลือบผิวได้อย่างทั่วถึงนะครับ
5.) ผ้าบางชนิดจำเป็นต้องตกแต่งเพิ่มเนื้อ (hand building finishing) หรือลงแป้งก่อนตัดเย็บ เนื่องจากว่าถ้าผ้านั้นมีเนื้อบางเกินไปจะทำให้การตัดเย็บนั้นเย็บยากมาก ซึ่งสารลงแป้งพวกนี้จำเป็นต้องใส่สารกันเสีย (preservatives) ลงไป เพื่อทำให้ผ้านั้นขึ้นราได้ยากนะครับ และก็แน่นอนว่า มันคือ “สารปนเปื้อน” นะครับ
6.) ผ้าพิมพ์ลายโดยเฉพาะที่พิมพ์ด้วยสีพิกเมนต์ (pigments) นั้นในแป้งพิมพ์ก็จะมีสารอินทรีย์ที่ระเหยได้ (VOCs, Volatile Organic Compounds) ที่มีกลิ่นเหม็น และระคายเคืองต่อทั้งระบบทางเดินหายใจรวมไปถึงผิวหนังด้วย ซึ่งปกติการพิมพ์สีพิกเมนต์นั้นมักจะพิมพ์แล้วทำการตัดเย็บเลย/ หรืออาจจะตัดเย็บแล้วค่อยมาพิมพ์โดยที่ไม่ได้ซักก่อนที่ส่งให้ถึงมือลูกค้า
7.) บ่อยครั้งที่ผ้าที่ผ่านกระบวนการเหล่านี้เสร็จแล้ว ผู้ที่ทำเสร็จนี่คือไม่ได้หยิบมาพับเลยนะครับ ส่วนมากก็กองๆกันกับพื้นไว้ก่อน (มีสารปนเปื้อนจากพื้นมาหนึ่งละ) และบางทีพอได้กองใหญ่ๆนี่ คนงานไม่ได้ก้มเลื่อนกองเท่าไรหรอกนะครับ บางทีก็ใช้ #เท้าเขี่ย (สารปนเปื้อนจากเท้ามาอีกหนึ่งด้วย) ก่อนที่จะพับเข้าซองพลาสติกมาขายเรานะครับ
8.) โกดังที่เก็บเสื้อผ้าก่อนนำมาขายนี่ บางทีอาจจะเจอการเก็บผ้าหลายแบทช์รวมกัน ก็ทำให้ไอระเหยของสารพวกนี้ถูกอบเข้าไปในเสื้อผ้าทุกตัวอย่างเท่าเทียมกันตลอด อีกทั้งบางทีก็จะมีการใช้สารกันแมลง มด มอดขึ้นเสื้อผ้าก็อาจจะมีการใช้สารเคมีบางประเภทป้องกันด้วย
9.) ร้านค้าเสื้อผ้าหลายแห่งก็ไม่ได้มีสุขอนามัยที่ดีพอ อาจจะทำให้มีสัตว์น้อยใหญ่พวก หนู หมา แมว มาเดินเล่นยั้วเยี้ยบนกองเสื้อผ้าก่อนที่จะนำมาวางโชว์รูมให้เราเลือกซื้อกันนะครับ
ดังนั้นจากเหตุผล 9 ประการนี้ จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราควรที่จะ #ซักก่อนใส่อย่างดียิ่งนะครับ
สุดท้ายนี้แอดก็ขอขอบคุณรูปประกอบบทความจากลิงก์นี้ด้วยนะครับ
https://www.flickr.com/photos/garethscanlon/4605812801
#ซักก่อนที่จะใส่
#เพราะบางทีสารปนเปื้อนไม่อาจเห็นได้ด้วยตา
#เห็นเรียบๆขี้ตีนเพียบนะจ๊ะ